Point of view
วัน-เวลาทำการ : เราจะติดต่อกลับในเวลาทำการ : จันทร์ - ศุกร์ 09.00 - 17.00
(หยุดวันเสาร์ - อาทิตย์ และ วันหยุดตามปฏิทิน)
ติดต่อข่าวสารโปรโมชั่นทัวร์
qrcode
@povtravel

ไปเที่ยวญี่ปุ่น พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี 2019 Japan Autumn (Update 3 กันยายน)

สิงหาคม 8, 2019 | by Point of view

ไปเที่ยวญี่ปุ่น พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี 2019 Autumn in Japan?

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีพร้อมชมใบไม้เปลี่ยนสีทั่วญี่ปุ่น 

?สวัสดีครับ วันนี้หมีพอยท์มาแจ้งพยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่น ระยะเวลาของใบไม้เปลี่ยนสีก่อนร่วง วิธีดูคือจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์นะครับ นับจากวันที่เริ่ม เท่านี้ก็จะรู้เวลาที่ใบไม้ร่วงโดยประมาณแล้วครับผม ?

?เช็คก่อนเที่ยว ไปถึงไม่ผิดหวังแน่นอน หมีพอยท์การันตีครับ

ไปเที่ยวญี่ปุ่น - 1
ไปเที่ยวญี่ปุ่น – 1
ไปเที่ยวญี่ปุ่น - 2
ไปเที่ยวญี่ปุ่น – 2

เมือง วันที่พยากรณ์ใบไม้แดง (ต้นเมเปิ้ล)
Sapporo7 พฤศจิกายน
Aomori14 พฤศจิกายน
Sendai26 พฤศจิกายน
Tokyo3 ธันวาคม
Kanazawa27 พฤศจิกายน
Nagano22 พฤศจิกายน
Nagoya30 พฤศจิกายน
Kyoto8 ธันวาคม
Osaka1 ธันวาคม
Wakayama10 ธันวาคม
Hiroshima26 พฤศจิกายน
Kochi5 ธันวาคม
Fukuoka7 ธันวาคม
Kagoshima10 ธันวาคม
ไปเที่ยวญี่ปุ่น - 3
ไปเที่ยวญี่ปุ่น – 3

เมือง วันที่พยากรณ์ใบไม้เหลือง (ต้นแปะก๊วย)
Sapporo4 พฤศจิกายน
Aomori2 พฤศจิกายน
Sendai18 พฤศจิกายน
Tokyo20 พฤศจิกายน
Kanazawa12 พฤศจิกายน
Nagano8 พฤศจิกายน
Nagoya20 พฤศจิกายน
Kyoto24 พฤศจิกายน
Osaka20 พฤศจิกายน
Wakayama21 พฤศจิกายน
Hiroshima17 พฤศจิกายน
Kochi12 พฤศจิกายน
Fukuoka12 พฤศจิกายน
Kagoshima24 พฤศจิกายน
Klook.com

ใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่นจะไล่จากเหนือลงใต้ โดยเกาะฮอกไกโดจะเริ่มเปลี่ยนที่แรก แล้วก็จะไล่เปลี่ยนตามๆ กันมา ใครอยากไปชมใบไม้เปลี่ยนสีที่เมืองไหนๆ เที่ยวกับเรา ดูโปรแกรมทัวร์ก่อนได้ที่ http://povtravel.co.th/japan/

ไปเที่ยวญี่ปุ่น - 4
ไปเที่ยวญี่ปุ่น – 4

ภูมิอากาศ

ฤดูใบไม้ผลิ : มีนาคม เมษายน พฤษภาคม

เมื่อดอกบ๊วยเบ่งบานเป็นสัญญาณว่าฤดูหนาวกำลังจะหมดไปและฤดูใบไม้ผลิกำลังจะมาถึง หลังจากนั้นดอกซากุระก็จะเริ่มบานตามมาและจะเบ่งบานสะพรั่งสวยงามที่สุดในแถบโตเกียวระหว่างช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน ในช่วงฤดูกาลนี้ทิวทัศน์ของภูเขาทุ่งนาและสวนต่างๆจะปกคลุมไปด้วยสีชมพูสวยงามดูอ่อนหวานนุ่มนวล

เสื้อที่ควรเตรียมไป 

ถ้าไปต้นฤดูใบไม้ผลิ จะยังเป็นรอยต่อของช่วงฤดูหนาวอยู่อากาศยังหนาวสำหรับคนไทย ควรเตรียมแจ็กเก็ตและสเว็ตเตอร์กันหนาวไป เตรียมเสื้อด้านในที่ให้ความอบอุ่นไปและสวมเสื้อคลุม แจ็กเก็ตหรือคาร์ดิแกน หรือเสื้อคลุมบางตัวยาว ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่

ควรเตรียมกางเกงขายาว กางเกงขายาวแนบเนื้อตัวหนา ถุงน่องแบบหนา และถุงเท้ายาว พร้อมรองเท้าหุ้มส้น หรือรองเท้าบูทแบบหุ้มข้อ

Klook.com

ฤดูร้อน : มิถุนายน กรกฎาคม สิงหาคม

ฤดูร้อนของญี่ปุ่นจะเริ่มขึ้นในเดือนมิถุนายนกับมีฝนตกร่วม 3 – 4 สัปดาห์ นี่คือเวลาที่สำคัญสำหรับเกษตรกรสำหรับการปลูกข้าว และหลังจากเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไปอากาศจะชื้นและร้อนขึ้นอย่างมาก ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากจึงนิยมไปเที่ยวทะเลเพื่อว่ายน้ำ และพักผ่อนตามบ้านพักตากอากาศในภูเขาที่มีอากาศเย็นสบาย ฤดูร้อนยังเป็นช่วงที่มีงานเทศกาลและมีการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจขึ้นมากมายทั่วประเทศ

เสื้อที่ควรเตรียมไป 

เสื้อผ้าแบบเมืองร้อน เสื้อแขนกุดพร้อมเสื้อทับด้านนอก เสื้อยืดแขนสั้น ชุดเดรส กางเกงหรือกระโปรงสั้น กางเกงขายาว ถุงเท้าแบบสั้น รองเท้าหุ้มส้นธรรมดาหรือ รองเท้าสาน โลชั่นกันแดด ชุดว่ายน้ำ แว่นตากันแดด หมวกสำหรับกันแดด แต่ควรให้นำแจ็กเก็ตหรือเสื้อคลุมอย่างบางไปด้วย สำหรับถ้าอากาศเย็นในช่วงกลางคืน และไม่ควรลืมผ้าเช็ดหน้า ผ้าฝ้าย หรือผ้าขนหนูผืนเล็กๆ สำหรับเช็ดเหงื่อ

ฤดูใบไม้ร่วง : กันยายน ตุลาคม พฤศจิกายน

ฤดูใบไม้ร่วงจะนำความสดชื่นมาพร้อมกับสายลมที่พัดเบาๆและอุณหภูมิที่เย็นสบายหลังจากความร้อนและชื้นของฤดูร้อนหมดไป ป่าทั้งผืนจะถูกย้อมด้วยสีสันของฤดูใบไม้ร่วงที่สวยงาม ดอกเก๊กฮวยที่บานสะพรั่งงดงามร่ายมนต์ให้นักท่องเที่ยวต้องเข้ามาเยี่ยมเยือนเพื่อชมตามสวนสาธารณะและสวนดอกไม้ต่างๆ  ฤดูใบไม้ร่วงยังเป็นฤดูกาลสำหรับการจัดนิทรรศการมากมายในญี่ปุ่น รวมถึงการแสดงดนตรีและการแข่งขันกีฬาต่างๆ

เสื้อที่ควรเตรียมไป 

แม้อากาศจะไม่หนาวเท่าฤดูหนาวแต่จะมีลมเย็นๆพัดตลอดทั้งวัน ควรเตรียมเสื้อคลุมแขนยาวสำหรับกันหนาวเพื่อสามารถถอดเข้า-ออกได้ในช่วงที่ออกนอกสถานที่ เสื้อผ้าที่ควรนำไป อาทิเช่น เสื้อยืดแขนยาว เสื้อแขนยาว เสื้อคอเต่าแขนยาว เสื้อคาร์ดิแกน เสื้อคลุม เสื้อแจ็กเก็ต สเว็ตเตอร์กันหนาว ผ้าพันคอแบบหนา กางเกงขายาว กระโปรงยาว กางเกงเล็กกิ้งตัวหนา ถุงน่องแบบหนา ถุงเท้า พร้อมรองเท้าหุ้มส้น หรือรองเท้าบู๊ท

ฤดูหนาว : ธันวาคม มกราคม กุมภาพันธ์

อุณหภูมิในฤดูหนาวของที่ราบตลอดชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกนั้นมักจะไม่หนาวจัดจนต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส อากาศออกจะค่อนข้างแห้งและแจ่มใส  ตอนกลางและตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่นเป็นภูมิภาคที่มีชื่อเสียงเรื่องกีฬาฤดูหนาวอย่างมาก ส่วนทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่นนั้นอากาศจะเย็นสบายและไม่หนาวจัดเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น

เสื้อที่ควรเตรียมไป 

ชุดกันหนาวไปให้พร้อม เสื้อและกางเกงแนบเนื้อด้านใน สำหรับให้ความอบอุ่นกับร่างกาย จำเป็นต้องมีเสื้อคลุมโอเวอร์โค๊ต ชุดผ้าขนสัตว์และแจ็คเก็ต ชนิดหนาเป็นพิเศษ ถ้าเป็นแบบกันน้ำได้ก็ยิ่งดี ผ้าพันคอแบบหนา ถุงมือ หมวกไหมพรมแบบกันหนาวได้ ถ้าหนาวมากอาจต้องมีที่ปิดหู ส่วนถุงเท้าให้ใส่แบบหนาๆ รองเท้าหุ้มข้อหรือรองเท้าบูทที่กันความหนาวเย็นและหิมะได้ ควรสวมใส่เสื้อผ้าให้อบอุ่นอยู่เสมอ

สกุลเงินและการแลกเปลี่ยนเงินตรา

สกุลเงินประเทศญี่ปุ่นเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่น คือ “円” โดยจะมีสัญลักษณ์เป็น ” “¥” ซึ่งมีการเขียนตัวสะกดเป็น “Yen” หรือ “JPY” ในตัวอักษรต่างประเทศ

ฐานภาษีผู้บริโภคในประเทศญี่ปุ่นอยู่ที่ 8% เนื่องจากราคาสินค้าที่แสดงไว้จะเป็นราคารวมภาษีหรือไม่แล้วแต่ร้านค้า กรุณาถามพนักงานว่าสินค้านั้นได้รวมภาษีไว้ด้วยหรือไม่ เพื่อที่จะได้ทราบราคาที่แน่นอนก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า

ไม่มีการจำกัดจำนวนเงินที่จะนำเข้าหรือนำออกจากประเทศญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นเงินสกุลใด อย่างไรก็ตาม หากมีการนำสกุลเงินใดๆ เช็ค ตราสาร หรือเงินในรูปแบบอื่นๆเข้าหรือออกจากประเทศญี่ปุ่นมูลค่ามากกว่า 1,000,000 เยนจะต้องทำการแจ้งต่อกรมศุลกากรให้เรียบร้อย

หน่วยสกุลเงินญี่ปุ่นคือเยน เหรียญที่มีใช้อยู่คือเหรียญ 1, 5, 10, 50, 100 และ 500 เยน
และธนบัตรที่มีใช้อยู่คือธนบัตรมูลค่า 1,000, 2,000, 5,000 และ 10,000 เยน

เงินญี่ปุ่น- 5
เงินญี่ปุ่น- 5

คุณสามารถซื้อเงินเยนได้ที่ธนาคารรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตราที่ได้รับอนุญาตทั่วไป สำหรับเคาน์เตอร์แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในสนามบินระหว่างประเทศนั้นมักจะเปิดในเวลาทำการปกติ และอัตราแลกเปลี่ยนจะมีความผันผวนในแต่ละวันแปรผันตามค่าของตลาดเงิน

แรงดันไฟฟ้าที่ใช้ทั่วประเทศญี่ปุ่นคือไฟฟ้ากระแสสลับขนาด 100 โวลต์ มีความถี่ในการใช้งาน 2 ชนิดคือ 50 เฮิรตซ์ในญี่ปุ่นตะวันออก และ 60 เฮิรตซ์ในญี่ปุ่นตะวันตก (รวมถึงนาโกย่า เกียวโต และโอซาก้า)

จึงควรมีเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดแปลงไฟฟ้าได้ติดไว้ เช่นไดร์เป่าผม เตารีดแบบพกพา และที่โกนหนวดหรือต้องมีตัวแปลงไฟฟ้าชนิดแปลงแรงดันขึ้นเพื่อเปลี่ยนแรงดันไฟฟ้า

ในญี่ปุ่นไม่ใช้ปลั๊กที่มีขาทรงเหลี่ยมหรือปลั๊ก 3 ขา แต่จะใช้ปลั๊กทรงแบน 2 ขาแทน จึงขอแนะนำให้ซื้อหัวแปลงปลั๊กไฟ (Adaptor Plug) เตรียมไว้ล่วงหน้า

ปลั้กไฟ - 5
ปลั้กไฟ – 5

ในประเทศญี่ปุ่น เป็นเรื่องง่ายที่จะหาอุปกรณ์ เช่น ปลั๊กแปลงขาเสียบและตัวแปลงไฟฟ้าในเขตตัวเมือง ซึ่งจะมีขายอยู่ในย่านอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ย่าน Akihabara ที่ Tokyo และ ย่าน Nipponbashi ที่ Osaka หรือ ตามร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่

อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่นำติดตัวมานั้นสามารถหาที่ชาร์จได้ง่าย โดยผู้ที่มาท่องเที่ยวยังประเทศญี่ปุ่นมักจะไม่มีปัญหา เกี่ยวกับตัวปลั๊กเมื่อมาพักในโรงแรม นอกจากนี้ชินคันเซนรุ่นใหม่มีที่ชาร์จด้านข้าง หรือ ด้านใต้ที่นั่ง หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสอบถามทางเจ้าหน้าที่รถไฟ ในหลายปีที่ผ่านมา ร้านแฮมเบอร์เกอร์ที่มีสาขา และ ร้านอาหารแบบครอบครัวเริ่มมีสาขาที่มีปลั้กใต้ที่นั่งด้วย

เวลาที่ญี่ปุ่นเร็วกว่าไทยสองชั่วโมง


Klook.com