สวัสดีครับ วันนี้หมีพอยท์จะมาแนะนำสถานที่ เที่ยวทั่วโลก ที่สามารถเดินไปได้จริง และเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างประเทศ เที่ยวทั่วโลก อย่างไรให้คุ้มค่า กับเงินในกระเป๋าของเพื่อนๆ ถ้าพร้อมแล้วไปดูพร้อมๆกันเลยครับ 50ที่ เที่ยวทั่วโลก มีที่ไหนบ้าง

1. Prague (Czech Republic)

เที่ยวทั่วโลก ที่แรก มือง Prague เมืองหลวงของสาธารณรัฐ เช็ก (Czech หรือ Czechia) ดินแดนที่ชื่อว่า มงกุฎแห่งยุโรป (Crown of Europe) เนื่องจากมีความสวยงามและเงียบสงบอยู่ท่ามกลางขุนเขาและเป็นศูนย์กลางอาณาจักรที่ว่ามาแต่โบราณ  อ่านเพิ่มเติม

2. Lisbon (Portugal)

ลิสบอน เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศโปรตุเกส แนะนำว่าเป็น 1 ใน 10 เมืองใหญ่ของโลกที่มีเสน่ห์และน่าค้นหา โดดเด่นในเรื่องความงดงามของภูมิประเทศที่มีชายหาด มีชื่อเสียงด้านเดินเรือทางทะเล และยังมีพื้นที่ราบและภูเขา 

3. Santorini (Greece) 

กรีซ หรือเรียกอย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐเฮลเลนิก เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป ตอนใต้สุดของคาบสมุทรบอลข่าน มีพรมแดนทางเหนือติดกับประเทศบัลแกเรีย มาซิโดเนีย และแอลเบเนีย สถานที่ท่องเที่ยว ในวันสุดฮอต ของนักเดินทางที่ทั่วโลก เนื่องจากมีทัศนียภาพที่งดงาม และมีบรรยากาศยามพระอาทิตย์ตก ที่สวยตะลึง ที่สำคัญ ซานโตรินี ยังมีชายหาดแปลกๆ ไม่เหมือนที่อื่น

4. Jungfrau (Switzerland)

หนึ่งในสถานที่ เที่ยวทั่วโลกต่อมา คือ Jungfrau เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าเที่ยวที่สุดของยุโรปก็ว่าได้ เพราะเป็น “ท็อปออฟยุโรป” หรือ จุดที่สูงที่สุดของยุโรป บนเทือกเขาแอลป์ ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ล้อมรอบด้วยภูเขาไอเกอร์เมินช์ และยุงเฟรา ที่นี่ยังเป็นบริเวณแรกในเทือกเขาแอลป์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น “มรดกโลก” อีกด้วย

5. Cairo (Egypt)

ไคโร หรือ กอฮิเราะฮ์ ในภาษาอาหรับเป็นเมืองหลวงของประเทศอียิปต์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไนล์ ไคโรมีประชากรประมาณ 15.2 ล้านคน ซึ่งเป็นเมืองที่ประชากรมากที่สุดในทวีปแอฟริกา และเป็นหนึ่งในเมืองที่มีประชากรหนาแน่นแห่งหนึ่งในโลก มีอารยธรรมโบราณ ที่มีกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ลึกลับ และตำนานอันน่าพิศวง สัมผัสกับ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก

6. Brussels (Belgium)

บรัสเซลส์ เรียกอย่างเป็นทางการว่า เขตนครหลวงบรัสเซลส์ หรือ เขตบรัสเซลส์ เป็นเมืองหลวงของประเทศเบลเยียม และเป็นศูนย์กลางหรือเมืองหลวงอย่างไม่เป็นทางการของสหภาพยุโรป นอกจากนี้ยังเป็นที่โด่งดังในเรื่องของช็อกโกแลตและเบียร์ที่ดีที่สุดในโลก แฟนพันธุ์แท้เรื่องช็อคโกแลตกับคอเบียร์พลาดไม่ได้เลยครับ

7. Budapest (Hungary)  

บูดาเปสต์ เป็นเมืองหลวงของประเทศฮังการี และเป็นศูนย์กลางการปกครอง อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และการคมนาคมขนส่งของประเทศ มีประชากรมากกว่า 1.7 ล้านคน บูดาเปสต์ (Budapest) ได้รับการขนานนามว่า “ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ” เพราะเมืองนี้ถูกแม่น้ำขนาดใหญ่ชื่อว่า “แม่น้ำดานูบ” กั้นแบ่งเมืองออกเป็น 2 ฟากฝั่ง เป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้เลยก็ว่าได้

8. Amsterdam (Netherlands)

อัมสเตอร์ดัม เป็นเมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอัมสเติล เริ่มก่อตั้งประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 12 ปัจจุบันเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเนเธอร์แลนด์ ใครอยากมาชิลก็มาเดินเล่นริมคลอง ปั่นจักรยาน หรือออกไปหมู่บ้านกังหัน Zaanse Schans    Rijksmuseum เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมงานศิลปะของศิลปินชาวดัทช์รวมถึงศิลปินจากที่อื่น หน้าพิพิธภัณฑ์จะมีป้าย I amsterdam อันใหญ่ที่คนนิยมมาถ่ายรูปกัน 

9. Copenhagen (Denmark)

โคเปนเฮเกน เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเดนมาร์ก จำนวนประชากรในมีเมืองมีทั้งหมดประมาณ 500,000 คน ในฐานะที่เป็นเมืองหลวงของประเทศเดนมาร์ก (Denmark) ราชอาณาจักรสุดมั่งคั่งและร่ำรวยความสุขลำดับต้นๆ ของโลก ชุมชนท่าเรือ หมู่ตึกสีพาสเทล และความคึกคักของบรรดาร้านรวงริม 2 ฝั่งแม่น้ำ คือ จุดกำเนิดของเมืองหลวงอย่าง โคเปนเฮเกน (Copenhagen) นั้นเองครับ

10. Busan (South Korea)

ปูซาน หรือ พูซัน เป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ มีประชากรประมาณ 3.65 ล้านคน และปูซานยังคงเป็นเมืองที่ใหญ่อันดับ 2 ของประเทศรองจาก โซล ปูซานเป็นเมืองที่มีสภาพแวดล้อมและทิวทัศน์แบบเมืองบนเนินเขาติดทะเลที่สวยงาม มีชายหาดและจุดชมวิว รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ วัด และแหล่งช้อปปิ้งต่างๆ รวมถึงยังเป็นแหล่งอาหารทะเลสดๆ แสนอร่อยในเกาหลีอีกด้วย

อ่านเพิ่มเติม ได้ที่หน้า โปรแกรมทัวร์ปูซาน

11. Kuala Lumpur (Malaysia)

มาเลเซีย ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงกับไทย มีชายแดนติดต่อสามารถเดินทางจากไทยได้หลากหลายวิธี ความเป็นอยู่ บรรยากาศก็ไม่แตกต่างกันมากนัก เหมาะสำหรับทริปพักผ่อนสบายๆ ตึกแฝดปิโตรนาส (PETRONAS Twin Towers) ซึ่งตั้งตระหง่านด้วยความสูงถึง 451.9 เมตร! ตึกนี้นับเป็นแลนด์มาร์คทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นมากที่สุดในเมืองและยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คุณต้องไม่พลาด 

12. Vang Vieng (Laos)

วังเวียง เป็นเมืองท่องเที่ยวในแขวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว ห่างจากเวียงจันทน์ ประมาณ 160 กิโลเมตร ที่เที่ยวสุกฮิตอย่าง บลู ลากูน (Blue Lagoon) สระน้ำสวยใสสีฟ้าราวกับคริสตัน เป็นสระน้ำที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถลงไปดำผุดดำว่าย เล่นน้ำได้อย่างสบายใจ มุมไฮไลท์คือชิงช้าเชือกที่อยู่ด้านข้างของ บลู ลากูน

13. Ankara (Turkey)

อังการา เป็นเมืองหลวงของประเทศตุรกีและเป็นเมืองหลวงของจังหวัดอังการา อังการาเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากอิสตันบูล ดินแดนที่คาบเกี่ยวของสองทวีปทั้งยุโรปและเอเซียนั้นก็ถือว่าเป็นดินแดนแห่งมนต์เสน่ห์ที่เย้ายวนใจเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสของการผสมผสานทางวัฒนธรรมที่แสนจะลงตัวอย่างมาก 

14. Shanghai (China)

เซี่ยงไฮ้ หรือ ช่างไห่ เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำแยงซี เป็นเขตการปกครองระดับเขตการปกครองพิเศษแบบเทศบาลนคร ซึ่งมีสถานะเทียบเท่ากับมณฑล เป็น มหานครที่เจริญที่สุดของจีน เดินทางสะดวก ปลอดภัย มีระบบขนส่งมวลชนทั่วเมือง ปลอดภัย และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ถนนสายช้อปปิ้ง วัดเก่าแก่ ก็มีสวนสนุกระดับโลกอย่างดิสนีย์แลนด์มาเปิดทำให้มีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวเมื่องนี้มากขึ้นไปอีก

15. Zagreb (Croatia)

โครเอเชีย หรือชื่อทางการว่า สาธารณรัฐโครเอเชีย เป็นประเทศรูปเสี้ยววงเดือนในยุโรปที่มีอาณาเขตจรดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ยุโรปกลาง เมืองหลวงชื่อซาเกร็บ ในประวัติศาสตร์ปัจจุบัน  เมืองซาเกร็บก็กลายเป็นเมืองที่มั่งคั่งทั้งเศรษฐกิจและวัฒนธรรม เป็นศูนย์กลางการศึกษา การท่องเที่ยว การเงิน การขนส่ง อุตสาหกรรม และวิทยาศาสตร์ที่สำคัญของโครเอเชีย พร้อมทั้งยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปด้วย

16. Ha Long Bay (Vietnam)

เที่ยวทั่วโลก กับ ฮาลองเบย์ หรือ อ่าวหะล็อง เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ยทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม ใกล้ชายแดนติดต่อกับประเทศจีน ทัศนียภาพทั่วไปของอ่าวฮาลองจะประกอบไปด้วยผืนน้ำสีสวยและหมู่เกาะหินปูนน้อยใหญ่ รูปร่างแปลกตามากมายกว่า 1,900 เกาะ  ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ โดยองค์การยูเนสโก้ เมื่อปีพ.ศ.2537 

17. Hong kong

ฮ่องกง มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นเขตปกครองตนเองริมฝั่งทางใต้ของประเทศจีน  ฮ่องกงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้คนเลือกมาเที่ยวพักผ่อนเป็นอันดับต้นๆ เลยในเอเชีย และอยู่ไม่ไกลจากไทยมานัก เดินทางประมาณไม่เกิน3ชั่วโมง มาเที่ยวฮ่องกงต้องนึกถึงของกินสุดอร่อย และช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์ต่างๆ ขาช้อปพลาดไม่ได้จริงๆครับ

18. Hokkaido (Japan)

ฮอกไกโด เดิมเรียก เอโซะ เป็นชื่อจังหวัดและเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองในประเทศญี่ปุ่น มีภูมิประเทศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี รวมไปถึงทิวทัศน์ตามธรรมชาติที่ควรมาชมให้ได้สักครั้งในชีวิต และถ้าใครอยากทดลองแช่น้ำพุร้อนแบบออนเซ็นก็มีเช่นกัน

19. Osaka (Japan)

โอซากะ เป็นเมืองที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 และมีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น  เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสีสันจริงๆทั้งกลางวันและกลางคืน สถานที่ท่องเที่ยวไม่ว่าแนวไหนก็มีให้ครบทั้งวัดวาอาราม ศาลเจ้าศักดิ์และสวยงาม สวนสนุกยิ่งใหญ่ฮอตฮิตระดับโลก สถาปัตยกรรมญี่ปุ่นแบบโบราณ แหล่งช้อปปิ้งใหญ่ยักษ์ไม่แพ้โตเกียว เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

20. Jaipur (India)

ชัยปุระ เป็นเมืองหลักของรัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย และยังเป็นเมืองที่มีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับที่ 10 ของประเทศอินเดีย ชัยปุระ มีอีกหนึ่งฉายานั่นก็คือ “นครสีชมพู” แค่ชื่อก็สวยงามแล้ว ของจริงก็งดงามยิ่งกว่า เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์มาอันยาวนาน มีวัฒนธรรมต่างๆที่น่าทึ่ง และมีเอกลักษณ์เป็จของตัวเองเป็นที่กำเนิดศาสนาพุทธ และที่สำคัญ แม้กาลเวลาจะผ่านมาหลายร้อยปี เมืองนี้ก็ยังมีวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย

21. Venice (Italy)

เวนิส หรือ เวเน็ตเซีย เป็นเมืองหลักของแคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี ได้รับฉายาว่า ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก, เมืองแห่งสายน้ำ, เมืองแห่งสะพาน และเมืองแห่งแสงสว่าง เป็นหนึ่งในเมืองอันดับต้นๆที่ผู้คนจากทั่วโลกอยากจะไปเยือนสักครั้ง เวนิสมีความสวยงามของอาคารบ้านเรือนที่ตั้งอยู่กลางน้ำ การเดินทางภายในเมืองนี้นั้นจะใช้เรือเป็นส่วนใหญ่ ลัดเลาะไปตามตรอกซอกซอยต่างๆของแม่น้ำ ถ้าใครไม่อยากนั่งเรือก็สามารถเดินเที่ยวได้

22. Hakodate (Japan)

ฮาโกดาเตะ เป็นเมืองใหญ่สุดของกิ่งจังหวัดโอชิมะ ในจังหวัดฮกไกโด Hakodate Bay Area นับเป็นแหล่งช็อปปิ้งสุดปังประจำเมืองฮาโกดาเตะเลยครับ เรียกได้ว่าถ้าอยากได้อะไรต้องมาที่นี่รับรองได้หมดเพราะของเค้าเยอะจริงๆครับ ซึ่งเมื่อก่อนนี้ไม่ได้เป็นห้างอย่างที่เห็นๆกัน อาคารด้านหน้าของห้างสรรพสินค้าเคยเป็นที่ทำการไปรษณีย์มาก่อน ปัจจุบันได้ถูกดัดแปลงให้เป็นแหล่งช้อปปิ้ง อย่างที่เรารู้กันจนวันนี้

23. Salzburg (Austria)

ซาลซ์บูร์ก เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดลำดับที่ 4 ในประเทศออสเตรีย และเป็นเมืองหลวงของรัฐซาลซ์บูร์ก เมืองเก่าของซาลซ์บูร์กและสถาปัตยกรรมบาโรกเป็นหนึ่งในใจกลางเมืองที่ถูกดูแลรักษาอย่างดีที่สุดในกลุ่มประเทศที่พูดภาษาเยอรมันด้วยกัน และได้รับการยูเนสโกขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก ในปี พ.ศ. 2540

24. Paris (France)

ปารีส เป็นเมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนแม่น้ำแซน บริเวณตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศส บนใจกลางแคว้นอีล-เดอ-ฟร็องส์ มหานครเมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศสที่หลายๆคนยกให้เป็นเมืองที่โรแมนติกที่สุดในโลก เป็นเมืองที่ต้องไปเยือนซักครั้งในชีวิตนี้ของใครหลายๆคน

25. Barcelona (Spian)

สเปน หรือชื่อทางการคือ ราชอาณาจักรสเปน เป็นประเทศทางตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป ตั้งอยู่บนคาบสมุทรไอบีเรียร่วมกับโปรตุเกสและอันดอร์รา สเปนมีพรมแดนติดกับฝรั่งเศสทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือตามแนวเทือกเขาพิรินี La Sagrada Familia เป็นโบสถ์เก่าแก่ที่ใช้เวลาสร้างมายาวนานมาก จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่ความงดงามของสถาปัตยกรรมชวนตะลึงทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ใครๆ ก็กล่าวขวัญถึง

26. Singapore City (Singapore)

ประเทศสิงคโปร์ มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐสิงคโปร์ เป็นนครรัฐสมัยใหม่และเป็นประเทศที่เป็นเกาะขนาดเล็กที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  เดินทางด้วยเครื่องบินจากประเทศไทยประมาณ 2 ชั่วโมง คนไทยสามารถเดินทางไปเที่ยวได้เลยโดยไม่ต้องขอวีซ่า มีความหลากหลายของชนชาติค่อนข้างมาก จึงมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมสูง กลายเป็นอีกหนึ่งประเทศฮิตอันดับต้นๆของนักท่องเที่ยวชาวไทย 

27. Sun Moon Lake (Taiwan)

ไต้หวัน หรือ ไถวาน หรือชื่อทางการว่า สาธารณรัฐจีน เป็นรัฐในทวีปเอเชียตะวันออก ปัจจุบันประกอบด้วยเกาะใหญ่ 5 แห่งทะเลสาบสุริยันจันทรา เป็นทะเลสาบน้ำจืดจากธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดของเกาะไต้หวัน ตั้งอยู่ในภูเขาของมณฑลหนานโถว (Nantou County) พื้นที่ตอนกลางของเกาะ มีชื่อเสียงด้านความสวยงามจนได้รับการขนานนามว่าเป็น “สวิสเซอร์แลนด์แห่งไต้หวัน”

Klook.com

28. JeJu (Korea)

จังหวัดเชจู เป็นหนึ่งในเก้าจังหวัดในเกาหลีใต้ มีพื้นใหญ่ส่วนใหญ่ครอบคลุมเกาะเชจูซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ บริเวณช่องแคบเกาหลี อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ใต้ของจังหวัดช็อลลาใต้ ทำให้มีสภาพอากาศที่กำลังสบายตลอดทั้งปี ไม่หนาวหรือไม่ร้อนจัดจนเกินไป อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 15 องศา  เชจูมีสถานที่เที่ยวทางธรรมชาติ และวัฒนธรรมที่น่าสนใจมากเลยครับ อ่านเพิ่มเติม

29. Zhangjiajie (China)

อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย ( Zhangjiajie National Forest Park) เป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่ดีที่สุดของจีน พอมาถึงจะได้เห็นวิวในตำนานของจางเจียเจี้ย (Zhagnjiajie) เขาหินทรายที่สูงตระหง่านเสียดฟ้าท่ามกลางทะลหมอก สัตว์ป่าธรรมชาติ 

30. Kyoto (Japan)

นครเกียวโต เป็นเมืองหลักของจังหวัดเกียวโต และเป็นอดีตเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจัดว่าเป็นศูนย์กลางของเกาะฮนชู นอกจากนี้ นครเกียวโตยังเป็นหนึ่งในสมาชิกของ กลุ่มเมืองใหญ่ “เคฮันชิง” และนครเกียวโต ยังจัดว่าเป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 11 ของโลก เกียวโตก็เป็นอีกเมืองหนึ่งไม่ควรพลาดเพราะเป็นเต็มไปด้วย วัดและศาลเจ้าเก่าแก่โบราณ ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีความสวยงาม แตกต่างกันไป เป็นอีกเมืองที่ที่นักท่องเที่ยวชาวไทยชอปไปเที่ยว สามารถเที่ยวได้ตลอดปี

31. London (England)

ลอนดอน เป็นเมืองหลวงของประเทศอังกฤษ และสหราชอาณาจักร และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสหภาพยุโรป เป็นเมืองที่มีศูนย์กลางทางธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีทั้งแหล่งท่องเที่ยวที่ทรงคุณค่าประวัติศาสตร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอยู่หลายแห่ง สถานที่ทเี่ยว ได้แก่ พระราชวังบักกิงแฮม หอนาฬิกาบิ๊กเบน สะพานลอนดอน เป็นที่คุ้นหูนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเนิ่นนาน แน่นอนว่าด้วยประวัติศาสตร์ของเมืองที่ยาวนานกว่า 2,000 ปี

Klook.com

32. Lapland (Finland)

แลปแลนด์ (Lapland) ตั้งอยู่ทางเหนือของประเทศฟินแลนด์ และครอบคลุมพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ สวีเดน ฟินแลนด์ ตามล่าหาแสงเหนือ (ออโรร่า) , เที่ยวหมู่บ้านซานตาครอส (Santa Clause Village), หมู่บ้านอิกลูแคสสลอตทาเน่น (Glass Igloos),  นั่งรถเลื่อนที่ลากด้วยกวางเรนเดียร์ หรือ ขับเคลื่อนสุนัขลากเลื่อน Husky Safari หรือ ล่องเรือ SAMPO Icebreaker เรือตัดน้ำแข็ง หรือไอซ์เบรกเกอร์ ที่โด่งดังที่สุดในโลก

33. Bali (Indonesia)

บาหลี เป็น 1 ใน 34 จังหวัดของประเทศอินโดนีเซีย งอยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะชวา และทางด้านตะวันตกของเกาะลอมบอก มีพื้นที่ทั้งสิ้นราว ๆ 5,636 ตารางกิโลเมตร โดยพื้นที่บนเกาะนั้นมีความหลากหลายทางภูมิประเทศ ภูเขาไฟที่สำคัญ  วัดเทมภัคสิริงค์ เป็นวัดที่มีชื่อเสียงมากอีกแห่งหนึ่งของเกาะบาหลี  ภายในวัดจะมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ซึ่งผุดพรายน้ำขึ้นมา นักท่องเที่ยวจำนวนมากนิยมไปอาบน้ำ และ นำน้ำกลับมาดื่ม

34. Moscow (Russia)

มอสโก เป็นเมืองหลวงของประเทศรัสเซีย เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเงิน การศึกษา และ การเดินทางของประเทศ โดยตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำมัสกวา ซึ่งในตัวเมืองมีประชากรอยู่อาศัยกว่า 1 ใน 10 ของประเทศ  หาวิหารเซนต์บาซิล (St. Basil’s Cathedral) ตั้งอยู่ที่จัตุรัสแดง ด้วยเอกลักษณ์รูปทรงที่มีลักษณะเป็นโดมรูปหัวหอม สีสันสดใส สะดุดตา ตั้งตระหง่านขนาบข้างด้วยกำแพงเครมลินอย่างสง่างาม ที่นี่จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก 

35. Nami Island (Korea)

สาธารณรัฐเกาหลี หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า เกาหลีใต้ เป็นประเทศในเอเชียตะวันออก มีพื้นที่ครอบคลุมส่วนใต้ของคาบสมุทรเกาหลี เกาะนามี ตั้งอยู่ที่เมืองชุนช็อน จังหวัดคังว็อน ห่างจากกรุงโซลไปทางตะวันออก 63 กิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเกาหลีใต้ เกาะนามีมีรูปร่างเหมือนใบไม้ลอยน้ำ เป็นเกาะกลางแม่น้ำฮัน ซึ่งเกิดจากการสร้างเขื่อนช็องพย็อง อ่านเพิ่มเติม

36. Seoul (Korea)

โซล ชื่ออย่างเป็นทางการ นครพิเศษโซล เป็นเมืองหลวงและมหานครที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเกาหลีใต้ มีประชากรประมาณ 10 ล้านคน เป็นปริมณฑลที่ใหญ่ มีประชากรประมาณ 25 ล้านคน นอกจากนี้กรุงโซลยังมีแหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียง อย่างเช่น ย่านเมียงดง, อัพกูจอง, และย่านช้อปปิ้ง COEX Mall ซึ่งเป็นที่ช้อปปิ้งใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย จึงทำให้มีผู้คนจำนวนมากจากทั่วโลกเดินทางมาท่องเที่ยวที่เมืองแห่งนี้ทุกๆปี อ่านเพิ่มเติม

37. Dubai (United Arab Emirates)

ดูไบ เป็นนครใหญ่สุดของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มีพื้นที่ประมาณ 4,000 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรประมาณ 2 ล้านคน เมืองดูไบถือได้ว่าเป็นเมืองท่าที่สำคัญแห่งหนึ่งบนโลก และมีอัตราการเจริญเติบโตของเมืองสูงมาก จากเมืองทะเลทรายกลายเป็นเมืองสวรรค์ ทั้งโรงแรม แหล่งช๊อปปิ้ง และสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกไฝ่ฝันอยากไปเที่ยวสักครั้ง

38.Yangon (Myanmar)

ย่างกุ้ง เป็นเมืองหลวงของเขตย่างกุ้ง และเป็นเมืองหลวงทางการค้าของพม่า ย่างกุ้งทำหน้าที่เป็นเมืองหลวงของพม่าจนถึงปี 2006 เมื่อรัฐบาลทหารย้ายศูนย์ราชการไปยังเนปยีดอในภาคกลางของประเทศพม่า  โลเคชั่นยอดฮิตสำหรับคนชอบทำบุญเลยก็ว่าได้ เพราะที่พม่ามีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มากมาย  ประเทศเพื่อนบ้าน เดินทางไม่ไกล นักท่องเที่ยวสายบุญพลาดไม่ได้นะครับ

39. Hoi An (Vietnam)

เรือกระด้งทรงกลมนี้เกิดจากการสานไม้ไผ่เข้าด้วยกันเป็นรูปทรงกลม โดยใช้น้ำมันสนเคลือบทั้งตัวเรือทั้งลำเลย พูดได้เลยว่าเคลือบทั้งภายในและภายนอก หลายๆท่านอาจจะสงสัยว่าเรือทำไมทรงกลม ทำไมไม่ทรงแบนๆยาวๆ เหมือนเรือบ้านเรา ในสมัยก่อนชาวเวียดนามเขาคิดค้นการขนถ่ายสินค้าจากเรือลำใหญ่ปากอ่าวเข้ามาสู่ชายฝั่งนั่นเอง เรือกระด้งสามารถรองรับน้ำหนักได้ประมาณ 1,000 กิโลกรัม จึงเป็นกิจกรรมยอดฮิตของนักท่องเที่ยวนั้นเองครับ

40. Tokyo (Japan)

โตเกียว คือเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ไม่ว่าจะด้วยสถานที่ท่องเที่ยวแนววัฒนธรรม ศาสนา แหล่งช็อปปิ้ง อาหาร โตเกียวยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และวัฒนธรรมด้วย มี พระราชวัง ศาลเจ้าและวัดตั้งอยู่มากมาย สัญลักษณ์ที่สำคัญของโตเกียวมีอยู่หลายอย่างและล้วนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมือง อาทิ โตเกียวทาวเวอร์ (Tokyo Tower) ซึ่งเป็นหอคอยสีส้มๆ แดงๆ โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) ซึ่งเป็นหอคอยสีขาวที่สร้างใหม่ โคมไฟสีแดงที่หน้าวัดเซนโซจิ (Sensoji Temple) ทางม้าลายที่ห้าแยกชิบูย่า (Shibuya) เป็นต้น

41. Nara (๋Japan)

นาระ เป็นเมืองเอกของจังหวัดนาระ ในประเทศญี่ปุ่น เป็นอดีตนครหลวงของญี่ปุ่นในช่วง ค.ศ. 710 – 784 ดังนั้นภายในเมืองจึงมีสิ่งก่อสร้างโบราณมากมาย ทั้งวัด ศาลเจ้า และโบราณสถานต่าง ๆ สวนขนาดใหญ่และมีกวางอาศัยอยู่มากมาย และส่วนใหญ่จะเป็นมิตรและคุ้นเคยกับคนดี และที่สำคัญอยู่ใกล้กับเมืองโอซาก้าและเกียวโต เป็นอีกเมืองที่น่าสนใจเลยทีเดียวเลยครับ

42. Cebu (Philippines)

เซบูซิตี เป็นนครหนาแน่นในจังหวัดเซบู เขตกิตนางคาบีซายาอัน ประเทศฟิลิปปินส์ หลายคนรู้จักเซบูจากไฮไลท์สุดเด็ดของที่นี่ก็คือ ฝูงน้องฉลามวาฬที่เป็นมิตร กับทะเลสวยๆ และคนไทย Free-visa 30วัน

43. Bagan (Myanmar)

พุกาม เป็นเมืองโบราณและได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโกให้เป็นแหล่งมรดกโลก ตั้งอยู่ในเขตมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า  อาณาจักรแห่งแรกของชาวพม่า ในช่วงรุ่งเรืองสูงสุดของอาณาจักรระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 11 ถึง 13 มีวัด เจดีย์ และอาราม กว่า 10,000 แห่ง

44. Beijing (China)

ปักกิ่ง หรือ เป่ย์จิง เป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาชนจีน มีชื่อย่อว่า จิง ตั้งอยู่ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของ กำแพงเมืองจีน กำแพงขนาดใหญ่ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของประเทศจีน มีความยาวกว่า 21,196.18 กิโลเมตร โดยมีอาณาเขตครอบคลุมทั้งหมดถึง 9 มณฑล ทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และจัดเป็น 1 ใน 7 ของสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอีกด้วยครับ

45. Matamata (New Zealand)

นิวซีแลนด์ เป็นประเทศที่ประกอบด้วยเกาะใหญ่ 2 เกาะ รวมถึงเกาะเล็ก ๆ จำนวนหนึ่ง ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนตะวันตกเฉียงใต้  ที่ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามของธรรมชาติ และอากาศอันบริสุทธิ์ กิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวมากมายเลยครับ กิจกรรมก็จะต่างกันไปต่างฤดูกาล ทั้งเดินบนธารน้ำแข็งขนาดยักษ์ ชมทะเลสาบสีเขียวฟ้าใส สักครั้งต้องไปเที่ยวที่นี่ให้ได้ เมืองสวรรค์บนดิน

46. Nuuk (Greenland)

กรีนแลนด์ เป็นดินแดนทางเหนือสุดของโลก ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอาร์กติกและเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีพื้นที่ประมาณ 2,175,900 ตารางกิโลเมตร สำหรับใครที่ไม่อยากพลาดสัมผัสประสบการณ์ความหนาวแบบขั้นสุดและแสงเหนือที่กรีนแลนด์ ในฤดูหนาว ก็ไปได้ตั้งแต่เดือนกันยายน ถึงช่วงกลางเดือนเมษายน

47. Hamnoya (Norway)

Hamnoya เป็นหมู่บ้านชาวประมงขนาดเล็กในเขตเทศบาล Moskenes ในเขต Nordland ประเทศนอร์เวย์ ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเกาะMoskenesoyaห่างจากหมู่บ้าน Reine ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 1.5 กิโลเมตร เป็นที่รู้จักจากการมีทิวทัศน์อันโดดเด่น มีภูเขาและยอดเขาที่สวยงาม ทะเลเปิดและอ่าวกำบัง ชายหาดและดินแดนที่ยังเข้าไม่ถึง ผมแนะนำให้มาช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม เพราะเป็นช่วงที่ยังมีหิมะอยู่ และหิมะที่เกาะอยู่ตามภูเขามันแต่งแต้มทำให้บรรยากาศทีนี่สวยขึ้นมากๆ

48. Stockholm (Sweden)

สวีเดน หรือชื่อทางการคือ ราชอาณาจักรสวีเดน เป็นประเทศกลุ่มนอร์ดิกตั้งอยู่บนคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย ในยุโรปเหนือ Stockholm เป็นเมืองหลวงที่มีขนาดใหญ่ และเป็นนครหลวงที่งดงาม สวยถึงขั้นได้รับขนานนามว่า ความงามบนผิวน้ำ (Beauty on Water) หรือราชินีแห่งทะเลบอลติก เที่ยวชมสิ่งปลูกสร้างบ้านเรือนมีความสวยงามในรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบสวีเดน บ้านเรือนสมัยโบราณราวคริสต์ศตวรรษที่ 13 ปัจจุบันยังคงรักษาสภาพบ้านเรือนเก่าแก่ที่ได้อย่างดีเยี่ยมจริงๆ

49. Hohenschwangau (Germany)

ฟึสเซิน เป็นเมืองเล็ก ๆ ในรัฐบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี ในเขตอ็อสท์อัลก็อย ตั้งอยู่ห่างจากชายแดนประเทศออสเตรียไปทางทิศเหนือ 5 กิโลเมตร  “ปราสาทนอยชวานสไตล์” และ “ปราสาทโฮเฮนชวานเกา” รายล้อมด้วยทะเลสาบถึง 5 แห่ง ถือเป็นอีกเมืองโรแมนติก ตกแต่งไปด้วยสีสันที่สวยงามของบ้านเรือนและโรงแรมที่พัก ซึ่งแต่ละแห่งจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

50. Reykjavik (Iceland)

ไอซ์แลนด์ เป็นประเทศนอร์ดิกในยุโรปเหนือ ตั้งอยู่บนเกาะในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ “เรคยาวิก (Reykjavik)” เป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ใกล้กับขั้วโลกเหนือมากที่สุด  สภาพอากาศที่ไอซ์แลนด์จะเปลี่ยนแปลงบ่อย รวดเร็วมาก คาดการณ์ไม่ค่อยได้ว่าในหนึ่งวันจะเจอะอะไรบ้าง ประเทศนี้พลาดไม่ได้กับ แสงเหนือจะเห็นได้เฉพาะเวลากลางคืน และชัดในฤดูหนาว

---